ปานโช วิลลา นักมวยสากลชาวฟิลิปปินส์เป็นนักมวยสากลที่มีความสูงเพียง 154 เซนติเมตร น้ำหนักตัวไม่เกิน 51 กิโลกรัม แต่ได้ครองแชมป์โลกมวยสากลรุ่นฟลายเวทใน พ.ศ. 2466 นับเป็นนักมวยสากลชาวเอเชียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ เป็นแชมป์โลกมวยสากลคนแรกของประเทศฟิลิปปินส์ และของทวีปเอเชียไม่เคยพ่ายแพ้แบบน็อคเอาต์ แต่การชกมวยอาชีพของเขาสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเขาเสียชีวิตขณะอายุเพียง 23 ปี จากการติดเชื้อหลังการถอนฟัน เมื่อ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2468 รวมอายุได้ 23 ปี สถิติการชก 89 ครั้ง ชนะ 80 (น็อค 25) เสมอ 4 แพ้ 5
ชื่อ ปานโช วิลลา ตั้งตามชื่อของ นายพลปานโช วีญา ผู้นำการปฏิวัติในเม็กซิโก ซึ่งปฏิวัติตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนพ.ศ. 2453 ถึง พ.ศ. 2463
กุยเยโดเกิดที่อีลอก เมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2444 ในครอบครัวชาวนา ในวัยเด็กเขามีอาชีพช่วยแม่เลี้ยงแกะ จนอายุได้ 11 ปี เขาจึงเข้ามาอยู่ในเมืองอีโลอีโลและมีเพื่อนเป็นนักมวย เขาได้อพยพมายังมะนิลาพร้อมเพื่อน เริ่มฝึกมวยสากลในค่ายทหารของสหรัฐอเมริกาและเริ่มหันมาชกมวยสากลอาชีพใน พ.ศ. 2462 เส้นทางสู่แชมป์โลกของเขาเริ่มจากชกชนะ ปอนดอง เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2463 และชนะ จอร์จ เมนเดียเมื่อ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2464 และได้ครองแชมป์ฟิลิปปินส์รุ่นฟลายเวทในอีกสองปีต่อมา และได้รับการยกย่องให้เป็นแชมป์ภาคตะวันออกไกลในรุ่นฟลายเวทและแบนตัมเวท เขาเกือบจะเลิกชกมวยเพราะผิดหวังในความรัก เขาจึงเดินทางกลับบ้านเกิดที่เนกรอสเมื่อ พ.ศ. 2464 แต่เสียงเรียกร้องจากแฟนมวยทำให้เขากลับมาชกมวยอีกครั้ง ในช่วงนี้กุยเยโดได้เปลี่ยนชื่อในการชกมวยเป็นปานโช วิลลา
ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2465 วิลลาได้รับเชิญให้ไปชกที่สหรัฐอเมริกา เขาขึ้นชกครั้งแรกเมื่อ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2465 ชนะอาเบ โกลด์สตีน ต่อมาชกชนะ แฟรงกี้ เจนาโรและได้ครองแชมป์รุ่นฟลายเวทของสหรัฐอเมริกาโดยชนะน็อค จอห์นนี่ บัฟ ยก 11 เมื่อ 14 กันยายน พ.ศ. 2465 ก่อนจะเสียแชมป์ให้เจนาโรไป ต่อมาเสียแชมป์ให้แฟรงดี้ เกนาโร เมื่อ 1 มีนาคม พ.ศ. 2465 จากการที่วิลลาชกแพ้ในครั้งนั้น จิมมี่ วิลเด แชมป์โลกรุ่นฟลายเวทชาวเวลส์จึงเลือกวิลลาเป็นผู้ท้าชิง เนื่องจากเจนาโรที่ชนะวิลลาไปไม่ต้องการชิงแชมป์โลก การชกเกิดขึ้นเมื่อ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2466 วิลลาเป็นฝ่ายชนะน็อคในยกที่ 7 วิลเดผู้แพ้ถึงกับแขวนนวมไปทันทีหลังจากชกแพ้
วิลลาชกป้องกันตำแหน่งไว้ได้หลายครั้ง และไม่เคยประกาศสละตำแหน่งจนกระทั่งเสียชีวิตในอีกสองปีต่อมา วิลลาเดินทางกลับมะนิลาอย่างวีรบุรุษเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2467 มีการเดินขบวนพาเหรดและมีการรับรองในพระราชวังมาลากาญัน เขาได้กลับไปยังบ้านเกิดในอีโลอีโลและเนกรอสด้วย ก่อนจะกลับไปสหรัฐ วิลลาได้ชกป้องกันตำแหน่งที่มะนิลาครั้งหนึ่งด้วย แต่ไม่มีใครคาดคิดมาด่อนว่าจะเป็นชัยชนะครั้งสุดท้ายของวิลลา
วิลลากลับไปยังสหรัฐเพื่อเตรียมตัวขึ้นชกกับจิมมี่ แมคลาร์นิน ซึ่งได้กำหนดเป็นวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2468 ก่อนชกไม่กี่วัน วิลลาเกิดอาการบวมที่หน้าเนื่องจากมีการอักเสบที่ฟัน เช้าวันที่ขึ้นชก วิลลาไปหาหมอฟันเพื่อถอนฟันออก แม้ว่าจะเจ็บและบวม วิลลาตัดสินใจชกกับแมคลาร์นินตามกำหนดเดิม ระหว่างการชก วิลลาใช้หมัดข้างหนึ่งบังหน้าของตัวเองไว้ตลอดเวลา ทำให้เขาเป็นฝ่ายแพ้คะแนนเมื่อชกครบยก หลังจากการชกผ่านไป 2-3 วัน วิลลาต้องไปถอนฟันอีกเพราะเกิดการติดเชื้อ แต่เพราะเขาพักผ่อนไม่เพียงพอ ยังไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆ อาการของเขาจึงเลวร้ายลง และต้องเข้าโรงพยาบาลในวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2468 ซึ่งพบว่าการติดเชื้อได้ลุกลามเข้าไปสู่ลำคอ และต้องผ่าตัด หลังการผ่าตัดวิลลาเกิดอาการโคม่าและเสียชีวิตในวันต่อมา ซึ่งก่อนหน้าที่เขาจะอายุครบ 24 ปีเพียง 17 วัน ร่างของเขาถูกส่งกลับมะนิลาเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2468 และร่างของเขาถูกฝังที่ Manila North Cemetery
วิลลาเป็นนักมวยที่อยู่ในความทรงจำของแฟนมวยเพราะเสียชีวิตขณะที่กำลังเป็นแชมป์โลก วิลลาได้รับการเสนอชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศนักมวยนานาชาติเมื่อ พ.ศ. 2537 ซึ่งเป็นนักมวยสากลชาวฟิลิปปินส์คนที่สองต่อจากกาเบรียล แฟลซ อีลอร์เด ที่ได้เข้าหอเกียรติยศ และได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักมวยสากลยอดเยี่ยมอันดับที่ 59 โดยนิตยสารเดอะริงเมื่อ พ.ศ. 2545